Day 9 : พิพิธภัณฑ์สันติภาพโอซาก้า Peace Osaka Museum ซึ่งวันแรกที่ผมเดินทางไปยังปราสาทโอซาก้าแล้วผมหาไม่เจอ
ค่าเข้าชม : 300 เยน
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้รวบรวมเอกสารเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ไว้บางอย่างสื่อถึงสิ่งที่ผู้คนในสมัยนั้นพบเจอได้เป็นอย่างดี
ตกใจ!!! กำลังเดินมาดูบ้านจู่ๆก็มีเสียงเด็กตะโกนขึ้นมา นึกว่าผีหลอก
นอกจากนี้ยังคงมีข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่าย จำนวนผู้คนที่เสียชีวิต ข้อมูลเรือรบและอื่นๆอีกมากมาย
ถึงที่นี่จะเล็ก แต่ความรู้สึกที่ได้รับนั้นทำให้ผมรู้สึกเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นพอสมควร
ผมค่อยๆเดินไปตามโซนต่างอย่างช้าๆ ค่อยๆซึมซับบรรยากาศสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
หลุมหลบภัย ระวังตกใจเสียง!!
จักรเย็บผ้าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
พิพิธภัณฑ์เล็กๆกับความรู้สึกที่เกินจะเอ่ย
บรรยากาศราวกับอนิเมะ
ตลาด Kuromon Ichiba Market อีกสถานที่ๆผมตั้งใจจะมาแต่เนื่องจากหายากเลยทำให้หลงอยู่หลายวัน
ซูชิเต็มปากเต็มคำราคา : 1000 เยน
บรรกาศรอบๆตลาด
จุดประสงค์หลักที่มาที่นี่คือ กิน!!
กิน!!
และกิน!!
กินทุกอย่างที่ขวางหน้า
เพื่อกระเพาะที่หิวโหย
เราต้องกิน
ไม่แน่ใจว่าเขาต่อแถวกันทำไม แต่เหมือนจะรอซื้่อตั๋วหรือบัตรอะไรสักอย่าง
ย่านโดทงโบริ ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ
เดินไปเรื่อยๆ ตามประสาคนเหงา
ร้านเกมของญี่ปุ่น บางช่วงคุณอาจได้พบการแข่งขันทัวนาเมนท์ต่างๆ
ผู้แข่งขันเล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่กรรมการเหมือนจะไม่คิดอย่างนั้น
ไอศครีมรสชีส
ราคา : 300 เยน
ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ของญี่ปุ่น
ถึงวันที่ต้องกลับประเทศไทยเครื่องออก 0.10 น. แต่!! เครื่องที่ผมต้องขึ้นนั้นออกไปเมื่อวาน
อ้าว!! เงิบสิครับนี่จะต้องตกเครื่องจริงเหรอ เงินที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีแค่หมื่นกว่าๆเองนะ ได้แต่อ้อนวอนพนักงานของสายการบินแต่เหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้ “เพราะผมโง่เอง” จึงได้แต่หาที่นอนและแอบร้องไห้อยู่ในใจ พอตื่นเช้าจึงรีบไปธนาคารกรุงเทพ ณ กรุงโอซาก้าเพื่อให้สามารถซื้อเที่ยวบินผ่านระบบออนไลน์ได้ เหมือนโชคชะตาเล่นตลกเมื่อไปถึงธนาคารกลับพบว่าธนาคารปิด ผมจึงดูแผนที่เพื่อจะไปสถานทูตเพราะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ทำให้ผมกลับบ้านได้ เดินไปเดินมาสักพักจึงได้สังเกตุว่าธนาคารกับสถานทูตไทยนั้นคือที่เดียวกัน ซวยสิครับผมนี่เดินคอตกจนไปถึงอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เผื่อจะทำอะไรได้บ้าง เลยลองจองตั๋วผ่านคอมพิวเตอร์เพราะผมลองในมือถือหลายเครื่องแล้วทำไม่ได้สักเครื่อง และในที่สุดผมก็จองได้และทำให้ผมรอดตายจะชีวิตอันแสนทรหดนี้
ถึงจะต้องนอนอีก 1 คืนแต่ผมก็ไม่แคร์ตื่นเช้ามาจึงรีบไปอาบน้ำที่เลาจ์และสิ่งที่ทำให้ผมเงิบหนักกว่าเดิมคือ มี คอม พิว เตอร์ ให้ บริการ นั่งคิดทบทวนค่ารถไฟเข้าเมือง 920 เยน ค่ารถไฟไปสถานทูตไทย 200 เยน ค่ารถไฟไปนัมบะ 240 เยน ค่าอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ 1300 เยน ค่ารถไฟกลับสนามบิน 920 เยน โง่ซ้ำซ้อนมีคอมพิวเตอร์ให้บริการก็ไม่บอก ได้แต่อาบน้ำไปเสียดายเงินค่ารถไฟไป
สนามบินคันไซพอดูดีๆแล้วก็สวยเหมือนกันนะ
อาหารบนเครื่อง รีวิวแบบตรงๆ : แตงโมไม่หวาน มันบดจืดชืด ข้าวกับไก่ต้มพอกินได้ ขนมปังกับเนยพอกินได้ ถั่วจืดๆ น้ำหวานฟรี!!!
ต่อเครื่องที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ ใหญ่และยากเพราะเพิ่งเคยต่อเครื่อง แถมยังมาคนเดียวอีกได้แต่อาศัยสกิลภาษาอันน้อยนิดเข้าช่วย
ในที่สุด สวัสดีประเทศไทยเรารักนาย เราเข็ดแล้วเราจะไม่จากนายไปไหนอีกแล้ว(หลอก) เจ็บไม่จำหรอกครับเดี๋ยวครั้งหน้าจะไปที่ไหนอีกติดตามชมได้ที่เพจ : Wips Team ขอบคุณครับ